การตรวจอสุจิ หรือการวิเคราะห์น้ำเชื้ออสุจิ (Semen Analysis) ในฝ่ายชายคือการตรวจสอบคุณภาพและองค์ประกอบของอสุจิ เพื่อนำไปวินิจฉัยและวางแผนการมีบุตรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การตรวจอสุจิยังสามารถบ่งบอกปัญหาของการมีบุตรยากที่เกิดจากฝ่ายชายได้ นอกจากนี้การตรวจวิเคราะห์อสุจิยังเป็นการตรวจเพื่อยืนยันผลสำเร็จหลังจากการทำหมันอีกด้วย
ภาวะมีบุตรยาก นั้นไม่ได้เกิดจากฝ่ายหญิงเสมอไป ในปัจจุบันพบว่าปัญหามีบุตรยากที่มาจากฝ่ายชายนั้นสูงถึง 30-40% ซึ่งการตรวจอสุจิจะช่วยวิเคราะห์หาสาเหตุของการมีลูกยากได้
ทำความรู้จักกับอสุจิ
อสุจิ (Sperm) คือเซลล์สืบพันธุ์ของเพศชาย ที่เกิดขึ้นโดยกระบวนการภายในระบบสืบพันธุ์และถูกขับออกจากร่างกายผ่านการหลั่งทางอวัยวะเพศ เช่น เมื่อถึงจุดสุดยอด หรือการช่วยตัวเอง รวมไปถึงการขับออกมาตามธรรมชาติ ที่เรียกว่า ฝันเปียก (Wet dream)
โดยปกติแล้วการหลั่งน้ำอสุจิ 1 ครั้ง เฉลี่ยแล้วในคนปกติจะหลั่งออกมาประมาณ 3-4 มิลลิลิตร และมีจำนวนอสุจิเฉลี่ยประมาณ 300-500 ล้านตัว อสุจิมีหน้าที่เดินทางไปยังระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิงเพื่อปฏิสนธิกับไข่ หากมีการปฏิสนธิเสร็จสมบูรณ์ก็ทำให้เกิดการตั้งครรภ์
น้ำอสุจิเป็นอย่างไร?
น้ำเชื้อ หรือน้ำอสุจิ (Semen) จะมีสีขาวข้นหรือสีเทา เมื่อมีการหลั่งน้ำอสุจิออกมา น้ำอสุจิจะจับตัวกันเป็นลิ่มทันที หลังจากนั้นประมาณ 5-40 นาที น้ำอสุจิจะค่อยๆ กลายเป็นของเหลว อสุจิที่ไม่จับตัวกันหรือมีลักษณะเหลวอาจมีสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติของภาวะเจริญพันธุ์ได้
โดยปกติแล้วน้ำอสุจิจะมีปริมาณอยู่ที่ 1.5-7.6 มิลลิลิตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถี่ในการหลั่ง ผู้ที่มีการหลั่งอสุจิบ่อยอาจทำให้ปริมาณน้ำอสุจิลดน้อยลง และผู้ที่หลั่งนานๆ ครั้งอาจทำให้น้ำอสุจิมีปริมาณมาก แต่ถ้าหากมีน้ำอสุจิต่ำกว่า 1.5 มิลลิลิตร อาจมีภาวะน้ำอสุจิน้อยกว่าปกติ (Hypospermia) ส่งผลให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้
น้ำอสุจิประกอบด้วย 2 ส่วนคือ
- ส่วนที่เป็นเซลล์ ได้แก่ ตัวอสุจิ (Spermatozoa) เซลล์เยื่อบุ และเม็ดเลือดขาว
- ส่วนที่เป็นของเหลว (Seminal fluid) ซึ่งจะมีสารต่างๆ ที่หล่อเลี้ยงตัวอสุจิ เช่น สังกะสี (Zinc) ฟลาวีน (Flavine) กรดซิตริค (Citric Acid) เป็นต้น
สีของอสุจิบ่งบอกโรคอะไรได้บ้าง
- สีชมพูหรือน้ำตาลแดง อาจเกิดจากการปะปนของเลือดหรือการอักเสบที่มาจากปัญหาสุขภาพและส่งผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้หลอดเลือดเสียหายและมีเลือดไหลออกมาปะปนกับน้ำอสุจิ
- สีเหลือง ปนเขียว อาจเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อของต่อมลูกหมาก หรือภาวะเซลล์เม็ดเลือดขาวสูงกว่าปกติ (Leukocytospermia) รวมไปถึงการมีสารตกค้างในน้ำอสุจิ
การตรวจอสุจิ ตรวจอะไรบ้าง
การตรวจอสุจิจะช่วยประเมินคุณภาพของน้ำอสุจิ ที่ส่งผลต่ออัตราการตั้งครรภ์ โดยจะตรวจอสุจิหลักๆ ดังนี้
- ปริมาณน้ำอสุจิ (Volume) และ จำนวนตัวอสุจิ (Number of sperm)
การตรวจอสุจิจะช่วยวิเคราะห์ความผิดปกติของปริมาณน้ำอสุจิ และจำนวนตัวอสุจิที่อาจเกิดจากท่อนำอสุจิตีบตัน ทำให้อัณฑะมีการสร้างอสุจิน้อย หรือไม่มีการสร้างตัวอสุจิเลย
- รูปร่างของอสุจิ (Shape of sperm)
การตรวจอสุจิจะช่วยวิเคราะห์รูปร่างของอสุจิ โดยตัวอสุจิที่มีรูปร่างผิดปกติจะส่งผลต่อการปฏิสนธิกับไข่
- การเคลื่อนไหวของอสุจิ (Sperm Motility)
การตรวจอสุจิจะช่วยวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของอสุจิ หากพบว่าอสุจิมีการเคลื่อนที่ไม่ดี จะเกิดปัญหาทำให้ไม่สามารถว่ายผ่านปากมดลูกเพื่อไปพบกับไข่ในท่อนำไข่ของฝ่ายหญิงได้
ใครบ้างที่ควรตรวจอสุจิ
สำหรับคู่สมรสที่ต้องการวางแผนการมีบุตร ฝ่ายชายควรเข้ารับการตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิ เพราะจะช่วยบ่งบอกถึงคุณภาพอสุจิได้ อีกทั้งยังช่วยหาสาเหตุของการมีบุตรยากได้ด้วย
- ฝ่ายชายที่ไม่สามารถทำให้คู่ครองตั้งครรภ์ได้ หรือผู้ที่พยายามมีบุตร แต่ไม่สำเร็จ ควรเข้ารับการตรวจอสุจิเพราะปัญหามีลูกยากอาจเกิดจากฝ่ายชาย
- เมื่อเริ่มเข้าสู่อายุ 30 ปี เนื่องจากน้ำอสุจิจะเริ่มมีคุณภาพลดลงเมื่ออายุหลัง 30 ปีขึ้นไป
- ภาวะฮอร์โมนเพศต่ำ (Hypogonadism) หรือภาวะฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำ จะส่งผลต่อการสร้างเชื้ออสุจิ ปริมาณอสุจิน้อย
- มีการบาดเจ็บที่ลูกอัณฑะ เช่น การทำหมัน การฉายรังสี การทำเคมีบำบัด และแผลบาดเจ็บ
- การติดเชื้อที่ลูกอัณฑะ
- มีภาวะโรคแทรกซ้อน เช่น โรคเบาหวาน ที่จะทำลายระบบประสาท อาจเป็นสาเหตุของการหลั่งน้ำอสุจิ
- ผู้ที่มีโรคร้ายแรงที่อาจส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ เช่น โรคหนองใน โรคเริมอวัยวะเพศ ต่อมลูกหมากอักเสบ โรคคางทูม โรคตับ โรคไต และโรคเม็ดเลือดขาวรูปเคียว (Sickle cell anemia)
- มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ เช่น การหลั่งเร็ว การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
- เคยผ่าตัดต่อมลูกหมากโต และทำหมันด้วยการผ่าตัดเพื่อผูกท่อนำอสุจิ
ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อการสร้างอสุจิ
การใช้ชีวิตประจำก็อาจมีผลต่อการสร้างอสุจิ และคุณภาพของอสุจิ ดังนี้
- ผู้ชายที่มีกิจวัตรในชีวิตประจำวันเสี่ยงต่อการมีคุณภาพอสุจิไม่แข็งแรง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และการใช้สารเสพติด สิ่งเหล่านี้จะทำให้การสร้างตัวอสุจิน้อยลง
- ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก มีรอบเอวใหญ่ จะทำให้มีปริมาณน้ำเชื้อและจำนวนตัวอสุจิน้อย
- การออกกำลังกายที่หักโหมมากเกินไปจะทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำ ส่งผลให้การผลิตอสุจิลดลง
- สารเคมีบางชนิดที่เข้าสู่ร่างกายทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ยาฆ่าแมลง ตะกั่ว ทองแดง
- มีการใช้ยารักษาโรคบางชนิด เช่น ยา Phenytoin และ ยา Cimetidine
- ขาดสารอาหารในผัก ผลไม้ เช่น กรดโฟลิก (Folic Acid) พบมากในผักใบเขียว สารไลโคปีน (Lycopene) พบมากในมะเขือเทศ
- การอาบน้ำร้อนบ่อยๆ
การตรวจอสุจิมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
การตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิ (Semen Analysis) เป็นการตรวจหาปริมาณ และคุณลักษณะของน้ำอสุจิ เช่น การเคลื่อนไหว ความผิดปกติของรูปร่างอสุจิ เพื่อหาสาเหตุของการมีบุตรยากในผู้ชาย โดยการตรวจอสุจิมี 2 ขั้นตอน ดังนี้
1. การตรวจอสุจิดูด้วยตาเปล่า (Macroscopic Examination) เป็นการตรวจเพื่อดูลักษณะทั่วไปของอสุจิ ได้แก่
- สีน้ำอสุจิโดยรวม
- ความขุ่นใสของน้ำอสุจิ
- ความหนืด (Viscosity)
- การละลายตัว (Liquefaction)
- ปริมาตรของน้ำอสุจิ (Volume)
2. การตรวจอสุจิดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ (Microscopic Examination) เป็นการตรวจดูอสุจิโดยละเอียด ดังนี้
- จำนวนตัวอสุจิทั้งหมด (Total sperm count in ejaculate)
- ความเข้มข้นของอสุจิ (Sperm concentration)
- อัตราการเคลื่อนไหวของอสุจิ (Sperm motility)
- อัตราการมีชีวิตรอดของอสุจิ (Vitality)
- รูปร่างของอสุจิ (Sperm morphology)
- เม็ดเลือดขาว และเม็ดเลือดแดง
การเตรียมตัวสำหรับการตรวจเก็บเชื้ออสุจิ
ขั้นตอนการเตรียมตัวสำหรับการเก็บน้ำเชื้ออสุจิ มีดังนี้
- ก่อนวันตรวจอสุจิควรงดการมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงงดหลั่งอสุจิประมาณ 3-7 วัน
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- เมื่อเข้าสู่กระบวนการเก็บน้ำเชื้ออสุจิ จะเก็บน้ำเชื้อจากการช่วยตัวเอง (Masturbation) ในห้องพิเศษที่จัดเตรียมไว้
- ล้างมือและอวัยวะเพศให้สะอาด พร้อมเช็ดให้แห้งก่อนการเก็บน้ำอสุจิ
- ทางคลินิกหรือศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก จะให้ภาชนะที่สะอาด ปราศจากเชื้อโรคไว้สำหรับเก็บน้ำอสุจิโดยเฉพาะ
- เมื่อเก็บเชื้ออสุจิได้แล้ว ปิดภาชนะให้สนิท ห้ามแช่น้ำแข็ง หรือใส่ตู้เย็น
- นำส่งห้องปฏิบัติการทันที เพื่อทำการตรวจวิเคราะห์คุณภาพอสุจิ
คำแนะนำ : ไม่ควรเก็บน้ำเชื้ออสุจิโดยใช้ถุงยางอนามัย เพราะถุงยางอนามัยมีสารหล่อลื่นที่สามารถทำลายตัวอสุจิตายได้
ผลตรวจอสุจิที่ดีควรเป็นอย่างไร
อสุจิแข็งแรงดูยังไง? อสุจิที่ดี มีคุณภาพ เคลื่อนไหวเร็ว จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์มากขึ้น โดยอสุจิที่ดีสามารถดูได้จากผลตรวจอสุจิดังนี้
1. ความหนืด (Viscosity)
เมื่อทำการหยดไม่ควรยืดยาวเกิน 2 เซนติเมตร เพราะจะมีผลต่อการเคลื่อนที่ของอสุจิ
2. ความเป็นกรดด่างของน้ำอสุจิ (pH)
น้ำอสุจิที่ดีควรมีค่าความเป็นด่างอ่อนๆ หรือควรมีค่า pH มากกว่า 7.2
3. การละลายตัว (Liquefaction)
การละลายตัวของน้ำอสุจิที่ดี ไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง
4. ปริมาตรของน้ำอสุจิ (Volume)
โดยปกติแล้วการหลั่งน้ำอสุจิ 1 ครั้ง ควรมีปริมาณ 1.5-7.6 มิลลิลิตร
5. จำนวนตัวอสุจิทั้งหมด (Total sperm count in ejaculate)
ตามปกติจำนวนอสุจิควรมีอย่างน้อย 39-928 ล้านตัว แต่อสุจิที่ดีควรอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 300-500 ล้านตัว
6. ความเข้มข้นของอสุจิ (Sperm concentration)
ควรมีอย่างน้อย 15-259 ล้านตัว ต่อ 1 มิลลิลิตร
7. อัตราการเคลื่อนไหวของอสุจิ (Sperm motility)
ปกติแล้วควรมีตัวอสุจิที่สามารถเคลื่อนที่ทั้งหมดได้ประมาณ 40%-81%
8. อัตราการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าของอสุจิ (Sperm Progressive Motility)
อสุจิที่ดีควรมีอสุจิที่เคลื่อนที่ได้เร็ว เป็นเส้นตรงไปข้างหน้า อย่างน้อย 32%
9. อัตราการมีชีวิตรอดของอสุจิ (Vitality)
ปกติแล้วอสุจิควรมีชีวิตรอดมากกว่า 58% ขึ้นไป
10. รูปร่างของอสุจิ (Sperm morphology)
อสุจิที่ดีควรมีรูปร่างที่ปกติประมาณ 4-48%
11. จำนวนเม็ดเลือดขาว (WBC)
อสุจิที่ดีควรมีจำนวนเม็ดเลือดขาวไม่เกิน 1 ล้านตัวต่อมิลลิลิตร หากมีจำนวนเกินอาจแสดงถึงการติดเชื้อ
12. จำนวนเม็ดเลือดแดง (RBC)
อสุจิที่ดีควรมีจำนวนเม็ดเลือดแดงน้อยกว่า 1 ล้านตัวต่อมิลลิตร หากมีมากเกินอาจเกิดการติดเชื้อ หรือบาดเจ็บหลังการหลั่งน้ำอสุจิ
ผลตรวจอสุจิที่อาจจะทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้
ผลตรวจอสุจิที่ผิดปกติ จะมีปัญหาในเรื่องการเข้าถึงไข่ของตัวอสุจิ ทำให้ตัวอสุจิเจาะเซลล์ไข่ของผู้หญิงได้ยาก เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก ผลตรวจอสุจิที่อาจทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้ มีดังนี้
- ปริมาณอสุจิ และตัวอสุจิน้อย ไม่ผ่านเกณฑ์
- คุณภาพอสุจิไม่ผ่านเกณฑ์ เช่น อสุจิเคลื่อนที่ไม่ดี มีรูปร่างผิดปกติ
- มีฮอร์โมนเพศต่ำ ทำให้ลูกอัณฑะไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างปกติ
หากพบความผิดปกติของการตรวจเชื้ออสุจิ อาจจะต้องทำการวินิจฉัยเพิ่ม รวมทั้งวิเคราะห์ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองและอัณฑะที่มีผลต่อการสร้างอสุจิ ในบางกรณีอาจจะต้องตรวจโครโมโซมเพิ่มเติมด้วย
สำหรับผู้ที่พบว่ามีปัญหาเกี่ยวกับอสุจิ หรือผลตรวจอสุจิ สามารถเข้ามาปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Wellnesshealth Club ได้
คำถามที่พบบ่อย
เชื้ออสุจิน้อยสามารถมีบุตรได้ไหม
น้ำอสุจิน้อย หรือไม่ผ่านเกณฑ์สามารถท้องได้ แต่อาจจะไม่ใช่วิธีธรรมชาติ เนื่องจากการจะตั้งครรภ์ได้ ฝ่ายชายควรมีจำนวนอสุจิที่หลั่งไปที่ช่องคลอด อย่างน้อย 10-15 ล้านตัว จึงจะเพียงพอต่อการเข้าไปปฏิสนธิกับเซลล์ไข่ได้
ถ้าหากอยากมีบุตรสามารถใช้วิธีผสมเทียม หรือทำเด็กหลอดแก้ว IVF หรือ ICSI ได้ เพราะการทำเด็กหลอดแก้วนั้นจะใช้วิธีการปฏิสนธิภายนอก ซึ่งมีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากกว่าการปฏิสนธิแบบธรรมชาติ
เป็นหมันสามารถมีบุตรได้ไหม
เป็นหมันสามารถมีบุตรได้ โดยการทำ PESA / TESE เนื่องจากเป็นการเก็บอสุจิโดยตรงจากอัณฑะ ทำให้สามารถเก็บตัวอสุจิได้ และยังเหมาะกับผู้ที่ทำหมันด้วยการตัดและผูกท่อนำอสุจิทั้ง 2 ข้าง
อสุจิปริมาณเท่าไหร่ถึงท้องได้
การตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์ด้วยวิธีธรรมชาติ ต้องมีตัวอสุจิที่หลั่งไปในช่องคลอดอย่างน้อย 10-15 ล้านตัว ถึงจะเพียงพอที่จะเข้าไปปฏิสนธิกับเซลล์ไข่ได้
สรุป
การตรวจอสุจิจะช่วยตรวจดูความผิดปกติของอสุจิในฝ่ายชายได้ เพื่อประเมินความสามารถในการมีบุตร หรือช่วยวิเคราะห์ปัญหาการมีบุตรยาก เนื่องจากภาวะมีบุตรยากนั้นไม่ได้เกิดจากฝ่ายหญิงเพียงฝ่ายเดียว การเข้ามาตรวจอสุจิจะทำให้ทราบสาเหตุการมีบุตรยากได้อย่างแท้จริง นอกเหนือจากนี้การตรวจอสุจิสามารถช่วยวางแผนการมีบุตรในอนาคตได้
Wellnesshealth Club เราพร้อมให้คำปรึกษาและหาวิธีป้องกันพฤติกรรมที่อาจเป็นความเสี่ยงต่อการมีบุตรของท่าน โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญด้านการช่วยเจริญพันธุ์ รวมถึงการวางแผนครอบครัว
แหล่งอ้างอิง
Chertoff J. (2018, August 29). What Is a Normal Sperm Count?. Healthline. https://www.healthline.com/health/mens-health/normal-sperm-count
Johnson S. (2017, July 2). Semen Analysis and Test Results. Healthline. https://www.healthline.com/health/semen-analysis#abnormal-results